Review โรงแรม Prince Palace Hotel

Review โรงแรม Prince Palace Hotel

ปี 2016 สำนักข่าว CNN ได้จัดอันดับเมืองที่มี Street food ที่ดีที่สุดในโลก จำนวนทั้งหมด 23 ประเทศ ซึ่งอันดับ 1 ก็คือ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะย่านไชน่าทาวน์ หรือ ถนนเยาวราช ที่มีอาหารหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งอาหารคาว ของหวาน และผลไม้ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

การออกไปตะลุยหาของกินและช๊อปปิ้งที่ย่านไชน่าทาวน์ โดยปกติใช้เวลาแค่ครึ่งคืนก็เพียงพอ สามารถไปและกลับมานอนที่บ้านได้ แต่ครั้งนี้พวกเราลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพักค้างคืนกันในเมือง ไม่ไกลจากย่านไชน่าทาวน์ เพื่อจะได้มีเวลาเดินเล่นเพิ่มมากขึ้นและไม่ต้องรีบกลับบ้าน จึงมาพักกันที่ Prince Palace Hotel ซึ่งตั้งอยู่ในย่านตลาดโบ้เบ้

หลังจากเช็คอินท์เข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงออกไปหาของกินและช๊อปปื้งกันที่ไชน่าทาวน์ พ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งร้าน ผู้คนก็เริ่มพลุกพล่าน

เริ่มเมนูแรกกันด้วยหมูสะเต๊ะ ร้านเฮียชา หมูสะเต๊ะย่างด้วยถ่านร้อนๆ จิ้มกับน้ำจิ้มและน้ำอาจาด ทานคู่กับขนมปังปิ้ง

ร้านต่อมาคือ ปอเปี๊ยะสด อร่อยแค่ไหนให้ดูจากความยาวของแถวที่รอต่อคิว

พอเริ่มค่ำ นักชิมยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติ

มาต่อกันที่ร้านฮั่วเซ่งฮง

ที่นี่มีอาหารให้เลือกมากมายหลายเมนู ราคาไม่แพงมาก ถ้าไม่ได้สั่งพวกอาหารทะเล

เมนูที่พวกเราตั้งใจมากินและอยากแนะนำให้ลองก็คือ ยำแมงกะพรุน เนื้อแมงกะพรุนกรุบๆในน้ำยำรสแซ่บ เข้ากันได้ดีมาก

นอกจากร้านอาหาร ก็ยังมีร้านของฝาก อาหารอบแห้ง และร้านขายเสื้อผ้า อย่างร้านนี้ที่เน้นขายชุดกี้เพ้า มีแบบและลายให้เลือกเยอะมาก มาเสียตังค์หลักพันก็ที่ร้านนี้แหละ

ช๊อปเสร็จก็ออกไปหาของกินกันต่อ

เดินวนกลับมากินเซี่ยงไฮ้กระทะร้อน

ลูกค้าค่อนข้างเยอะ อาจจะต้องรอคิวกันสักหน่อย

เส้นเซี่ยงไฮ้สีเขียวนุ่ม ผัดกับไข่ ใส่กุ้งและปลาหมึกดอง ทานตอนร้อนๆ โอเคเลย

ตบท้ายด้วยของหวาน มีให้เลือกเยอะมาก เลือกเลยตามใจชอบ

มาถึงเยาวราชทั้งที ขอลองรังนกหน่อยละกัน เลยจัดรังนกแปะก๊วยมา 1 ถ้วย ปริมาณเนื้อรังนกน้อยจนใจหาย รู้สึกแอบเสียดายตังค์

ตลอดสองฝั่งของถนนเยาวราชในย่านไชน่าทาวน์ มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก หลายร้านขายอาหารคล้ายๆกัน เราเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน เพราะยังไม่ได้ลองทุกร้าน แค่สามสี่อย่างก็อิ่มแล้ว เอาเป็นว่าเจอร้านไหนน่ากินก็ลองชิมเลย เราว่าความสนุกของการมาไชน่าทาวน์ก็คือการได้กินของที่อยากกิน ได้ลองร้านที่อยากลอง ดีไม่ดีอาจจะเจอร้านที่ถูกใจที่ไม่เคยมีใครแนะนำมาก่อนก็ได้นะ

พวกเราเดินเล่นกันจนเกือบสี่ทุ่ม ทั้งอิ่มและเหนื่อย จึงนั่งแท็กซี่กลับไปพักผ่อนกันที่ Prince Palace Hotel​ ห้องพักของพวกเราในคืนนี้เป็นแบบ Executive Suite​ อยู่บนชั้น 20 ซึ่งจะมีเพียงแค่ชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น

ห้องแบบ Executive Suite​ จะอยู่มุมของตัวอาคาร จึงทำให้ห้องมีพื้นที่กว้างมาก

ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบหรู ปูพื้นด้วยพรม และประดับด้วยโคมไฟแสงสีส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น

เตียงนอนและหมอนนุ่มมาก หลับสบายตลอดทั้งคืน

อีกหนึ่งจุดเด่นของห้องแบบ Executive Suite ก็คือมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เรียงติดกันเป็นแนวยาวจากมุมห้องด้าน​หนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง หรือสองด้านของห้องขนาดสี่เหลี่ยมเป็นกระจกนั้นเอง จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างชัดเจน

วิวจากห้องที่พวกเราพักในทิศตะวันตก ด้านซ้ายคือเจดีย์ภูเขาทอง วัดสระเกศ ด้านขวาคืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย​​ ถนนราชดำเนินกลาง​

ส่วนวิวทางด้านทิศใต้จะมองเห็นสถานีรถไฟหัวลำโพงและแสงไฟจากเมือง

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องมีให้อย่างครบครัน

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคืออ่างอาบน้ำ ส่วนที่สองคือห้องอาบน้ำกับฝักบัวที่กันด้วยกระจก

และส่วนสุดท้ายคือโถส้วมและอ่างล้างหน้าที่มีกระจกบานใหญ่

จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ห้องพักที่กว้าง เรียบหรู และอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หากอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนพักค้างคืนกันในเมืองดูบ้าง โรงแรม Prince Palace Hotel จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยคุณสามารถเช็คราคาและจองได้ผ่าน Traveloka ที่ลิ้งนี้ได้เลย >> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/prince-palace-hotel-1000000208400  เพราะนอกจากจะจองง่ายจ่ายเงินสะดวกผ่านตู้ ATM แล้ว ลองไปตามที่หน้าโปรโมชั่น ก็อาจเจอโค้ดส่วนลด ได้ราคาที่พักถูกลงไปอีกก็ได้ครั

x Close

LIFE IS A JOURNEY