มีหลายคนชอบถามว่า “ไปเที่ยว สิงคโปร์ มาเป็นยังไงบ้าง? ดีไหม?” จะบอกว่าดีเฉยๆก็ธรรมดาไป งั้นขออธิบายความประทับใจเป็นบทเพลงนี้แทนละกัน
“คิ้วโก่ง หน้ากลม ผมงาม ต้องตา โอ้โห้ สิงคโปร์นั้นโก้จริงๆ ยิ้มมีเสน่ห์ เก๋เกินมองข้าม ถามใครดูได้สวยไปทุกสิ่ง รูปทรงสง่า หน้าตางามยิ่ง หญิงใดมาเปรียบ เทียบสิงคโปร์ ขวัญสะทก อกเจ้าเอ๋ย ไม่น่าเลย มาหลงรักสิงคโปร์” (ดัดแปลงจากเนื้อเพลง สาวบางโพ – ตู้ ดิเรก)
สิงคโปร์ ประเทศเล็กๆที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เป็นศูนย์รวมอาหารหลากหลายรูปแบบ ที่พักคุณภาพ และการเดินทางที่สุดแสนจะง่ายและสะดวกสบาย เหมาะกับมือใหม่หัดเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก รับประกันว่าจะต้องหลงรักสิงคโปร์และได้รับความประทับใจกลับมาอย่างแน่นอน ตามมาๆ เราจะพาไปดูว่าสิงคโปร์มีอะไรโก้ๆบ้าง
Universal Studio
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สวนสนุกในธีมภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เป็นจุดหมายอันดับต้นๆที่ทุกคนควรไปเยือนเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ และต้องมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าลูกโลกที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ให้ได้ เพราะมันโก้มากๆ
ผ่านประตูเข้ามาอย่าลืมแวะกินไอติมรูปมินเนียนด้วยล่ะ ถึงรสชาติจะธรรมดา แต่น่าเละดี เอ้ย!!! น่ารักดี
แวะชอปปิ้งหาพร็อพไว้ไปถ่ายรูปเล่นข้างใน แนะนำให้แวะก่อนเลย เพราะถ้าเที่ยวจนดึกหลังการแสดงพลุจบบางร้านอาจจะปิดก่อน
เสื้อลายมินเนี่ยนพวกเราซื้อมาจากร้าน Uniqlo ที่ไทย แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้ก็มาเลือกดูลายอื่นๆที่นี่ได้เช่นกัน
ภายในสวนสนุกแบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, The Lost World, Far Far Away และ Madagascar โดยเดินวนเป็นวงกลมก็จะครบทุกโซนพอดี มีเครื่องเล่นเยอะมาก อาจจะเล่นได้ไม่ครบ แนะนำให้เลือกเป็นบางอย่างที่อยากเล่นจริงๆ เพราะต่อคิวค่อนข้างนาน
โซน Sci-Fi City มี 4D Adventure นั่งรถยนต์ลุยเข้าไปในฉากต่อสู้ของเหล่า Transformer ภาพสวย เอฟเฟคเจ๋ง ตื่นเต้นดี
รถไฟเหาะมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบห้อยขากับแบบขาติดพื้น เราเลือกแบบห้อยขาเพราะมันซิ่งกว่า หวาดเสียวที่สุดคือตอนปล่อยตัวจากที่สูงในตอนเริ่มต้น หัวใจแทบวาย
โซน Ancient Egypt ด้านในเป็นรถไฟเหาะเหมือนกัน แต่ซิ่งอยู่ในที่มืดที่มีเอฟเฟคน่ากลัวๆ ความเร็วพอๆกับรถไฟเหาะด้านนอกเลย
โซน The Lost World
Puss In Boots’ Giant Journey อยู่ในโซน Far Far Away เป็นแนวรถไฟเหาะเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยน่ากลัว เด็กๆเล่นได้สบาย
ส่วนอันนี้เป็นรถไฟเหาะรางเล็กที่ภายนอกดูแบ๊วๆใสๆ เด็กๆต่อแถวเล่นกันเต็มเลย ก่อนออกยิ้มแย้มร่าเริง เล่นจบร้องไห้เกือบทุกราย ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังน้ำตาเล็ดเลย
การแสดง Water World ในฉากการไล่ลาและต่อสู้เหนือผิวน้ำสุดมันส์ พร้อมด้วยเอฟเฟคสุดอลังการ
โซน Madagascar กับเครื่องเล่นแบ๊วๆใสๆ
ขบวนพาเหรดของเหล่าตัวละครจากค่าย Universal Studio จะออกมาทักทายทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดเทศกาล เวลา 19.30 น.
ตั๋วค่าเข้าแบบ One Day เล่นได้ทุกเครื่องเล่น ราคาปกติ S$ 75 หรือประมาณ 1,800 บาท แต่ถ้าจองผ่าน Traveloka ลดเหลือเพียง 1,650 บาท และยังสามารถใช้โค้ดส่วนลดเพื่อลดเพิ่มได้อีกด้วย
เมื่อยืนยันการจองเรียบร้อยแล้วสามารถใช้บาร์โค้ดที่ได้รับสแกนเข้าประตูสวนสนุกได้เลย โดยไม่ต้องไปต่อแถวออกตั๋วอีกรอบ จองผ่านลิ้งนี้ได้เลย Universal Studio
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงสถานี Harbourfront จากนั้นจึงเลือกวิธีการเดินทางข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ดังนี้
- Sentosa Express รถไฟฟ้าแบบโมโนเรล ใช้เวลาประมาณ 8 นาที ค่าโดยสาร S$ 4 (ประมาณ 90 บาท)
- Singapore Cable Car กระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลไปยังเกาะ ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ค่าโดยสาร S$ 35 (ประมาณ 800 บาท)
- Sentosa Boardway ทางเดินเท้าข้ามไปยังเกาะ ระยะทางประมาณ 700 เมตร ค่าผ่านทาง S$ 1 (ประมาณ 22 บาท)
- Grab Taxi หรือ Grab Car
Haji Lane
ฮาจิเลน ตรอกเล็กๆท่ามกลางตึกแถวสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ถูกตัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าแบบชิคๆ
ตกแต่งฝาผนังของตึกด้วยกราฟฟิตี้เท่ๆ ที่นักชอปสายฮิปสเตอร์ต้องห้ามพลาด ชอปไปถ่ายรูปไปเพลิดเพลินมาก แต่โปรดระวังเงินในกระเป๋าของท่านจะหมดไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงที่สถานี Bugis ทางออก B
ArtScience Museum
ArtScience Museum พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ตั้งอยู่ริมอ่าวมาริน่า ติดกับ Marina Bay Sands จัดแสดงนิทรรศการศิลปะวิทยาศาสตร์หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ Future World โลกแห่งอนาคตที่ผสมผสานกันระหว่างศิลปะและวิทยาศาสต์ได้อย่างลงตัว ด้านในจัดแสดงนิทรรศการที่สามารถโต้ตอบกับผู้เข้าชมได้เสมือนกับมีเวทมนต์ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ Nature, Town, Sanctuary, Park and Space
โซน Nature เป็นสวนดอกไม้หลากหลายสีสันสวยงาม ผีเสื้อนับร้อยบินไปมา มีน้ำตกไหลลงมาจากเพดานกลายเป็นลำธารไหลผ่านกลางห้อง
หากเอาตัวเข้าไปยืนขวาง กระแสน้ำจะไหลหลบตัวเราไปด้านข้างได้ด้วยนะ
โซน Town เป็นเมืองแห่งจินตนาการที่ผู้เข้าชมทุกคนสามารถร่วมกันสร้างขึ้นมาได้ โดยการวาดภาพและระบายสีที่ต้องการลงบนกระดาษที่จัดเตรียมไว้ให้
จากนั้นนำกระดาษไปสแกนที่เครื่อง รูปภาพของเราก็จะไปปรากฎบนหน้าจอแอลอีดีขนาดใหญ่และสามารถเคลื่อนไหวได้
โซน Park สวนแห่งการเล่นและเรียนรู้สำหรับทุกเพศทุกวัย
โซน Sanctuary ออกจากความวุ่นวายของเมืองเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ดิจิตอลที่งดงาม เมืองแห่งความสงบสุขที่ถือว่าเป็นโอเอซิสในใจกลางของ Future World
และโซนสุดท้าย Space พาตัวเองเดินทางทะลุผ่านใจกลางของจักรวาลดิจิตอลที่ยิ่งใหญ่ตระการตา สัมผัสกับความสวยงามของคริสตัลนับแสนดวงที่เปลี่ยนสีไปมาตามจังหวะของเสียงดนตรี
ค่าตั๋วเข้าชม : ผู้ใหญ่ S$ 18 (ประมาณ 400 บาท) เด็ก (อายุ 2-12 ปี) / นักเรียน / ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) / ผู้ดูแลผู้พิการ S$ 13 (ประมาณ 300 บาท)
จองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าราคาประหยัดได้ที่ ArtScience Museum
รอบการเปิดให้เข้าชม : 10.00 น. / 11.30 น. / 13.00 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 17.30 น.
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงที่สถานี Bayfront ทางออก B
Digital Light Canvas
ผืนผ้าใบดิจิตอลขนาดใหญ่บริเวณตรงกลางโถง แสดงการเคลื่อนไหวของฝูงปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร สลับกับทุ่งดอกไม้สีสันสดใสที่กำลังเบ่งบาน สามารถโต้ตอบกับการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมที่วิ่งเล่นไปมาอย่างสนุกสนาน
“ขอพื้นที่เล็กๆให้ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม ไม่ว่านานเท่าไร ก็ไม่เปลี่ยนไปได้หรือเปล่า ให้ความสดใสยังอยู่กับเรา อย่าให้ใครเขามาแย่งไป” – พื้นที่เล็กๆ : ศิลปิน บอย ตรัย ภูมิรัตน
Digital Light Canvas ตั้งอยู่ภายในห้าง The Shoppes at Marina Bay Sands ชั้น B2
ค่าตั๋วเข้าชม : S$ 5 (ประมาณ 115 บาท) / เข้าชมฟรี สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี และผู้ที่มีตั๋วเข้าชม Future World
จองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าราคาประหยัดได้ที่ Digital Light Canvas
เวลาเปิด-ปิด : อา – พฤ : 11.30 น. – 21.00 น. / ศ, ส : 11.00 น. – 22.00 น.
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงที่สถานี Bayfront ทางออก B
Gardens by The Bay East
สวนสาธารณะด้านทิศตะวันออกของอ่าวมารีน่า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Marina Barrage และ Gardens by the Bay เป็นอีกหนึ่งจุดที่วิวสวยมาก
ด้านหน้าเป็นสนามหญ้าสีเขียวและผืนน้ำ พื้นหลังเป็นวิวตึกสูงและอาคารรูปทรงทันสมัยของ Garden by The Bay
แนะนำให้มาช่วงประมาณหลัง 4 โมงเย็น แสงกำลังสวย บรรยากาศดีมากๆ
การเดินทางจากตึกรูปเรือ (Marina Bay Sands) มายังจุดนี้ระยะทางประมาณ 2 กิโล ไม่มีรถสาธารณะบริการ สามารถเดินมาเรื่อยๆได้แต่เหนื่อยหน่อย หรือเช่าจักรยาน หรือสกู๊ตเตอร์จะสะดวกและเร็วกว่า
Marina Barrage
Marina Barrage เขื่อนกั้นน้ำของอ่าวมาริน่าที่ไม่ได้มีประโยชน์แค่กั้นน้ำ แต่ยังเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์และปิกนิคของคนสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เนื่องจากบริเวณดาดฟ้าของเขื่อนออกแบบให้เป็นลานโล่งกว้าง มีสนามหญ้าสีเขียวสบายตา สามารถมองเห็นวิวรอบเขื่อนจากมุมสูงได้แบบ 360 องศา
ทิศตะวันออกเป็นวิวทะเล ส่วนทิศตะวันตกเป็นวิวตึกสูงทันสมัย Gardens by the Bay และ Singapore Flyer ช่วงหลัง 4 โมงเย็นจนถึงพระอาทิตย์ตกดินบรรยากาศดีมากๆ
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงที่สถานี Bayfront ทางออก B จากนั้นเลือกระหว่างเดินกับเช่าสกู๊ตเตอร์หรือจักรยานมายังเขื่อน ระยะทางประมาณ 1.6 กม.
Garden by The Bay
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่จัดแสดงพันธ์ุไม้และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่รวบรวมมาจากทั่วโลก จัดแสดงอยู่ในโดมเรือนกระจกจำนวน 2 โดม และยังมีลานกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจอีกหลายแห่งให้ได้มาพักผ่อนหย่อนใจ
หนึ่งกิจกรรมที่อยากแนะนำก็คือ การออกตามหาความน่ารักของฝูงครอบครัวนากทะเล ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆอ่าวมารีน่าอย่างอิสระตามธรรมชาติ อาจจะเจอตัวได้ยากสักหน่อย แต่ถ้าโชคดีได้เจอ ก็อย่าเข้าใกล้ล่ะ ดูอยู่ห่างๆก็พอ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด คือ ชมการแสดงแสงสีเสียงที่ Supertree Grove ต้นไม้ยักษ์ที่ตั้งอยู่ภายในสวนของ Gardens by the Bay การแสดงแสงสีเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ราวกับว่าต้นไม้เหล่านี้มีชีวิตและกำลังกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะของเสียงดนตรี
เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 19.45 น. และ 20.45 น. แนะนำให้มาก่อนเวลาสัก 30 นาที เพื่อจะได้เลือกที่นั่งชมในมุมที่ถูกใจ
Marina Bay
อ่าวมารีน่า สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องมาเมื่อได้มาเยือนสิงคโปร์ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์เลยก็ว่าได้
และยังเป็นที่ตั้งของ Merlion หรือสิงโตพ้นน้ำ มาสคอตของประเทศสิงคโปร์ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างไม่ขาดสาย
สามารถมาเดินเที่ยวชมบรรยากาศรอบอ่าวมาริน่าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ช่วงก่อนพระอาทิตย์จะตกดินจนถึงกลางคืนจะดีที่สุด เพราะอากาศไม่ร้อน และจะได้ชมสถาปัตยกรรมรอบอ่าวที่พร้อมใจกันประดับไฟอย่างสวยงาม โรแมนติกมากๆ เหมาะกับการพาแฟนมาเดท
นอกจากนี้ในทุกๆวันจะมีการแสดงชุด Wonder Full Light & Water Spectacular การแสดงแสงสีเสียงบนน้ำสุดอลังการ บริเวณหน้าห้าง The Shoppes at Marina Bay Sands เปิดให้ชมฟรีทุกวัน รอบการแสดง อา-พฤ : 20.00 น. / 21.30 น. และ ศ, ส : 20.00 น. / 21.30 น. / 23.00 น.
Fort Canning Park
Fort Canning Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ถูกโอบล้อมด้วยตึกน้อยใหญ่ มีจุดเด่นอยู่ที่อุโมงค์ทางเดินเชื่อมระหว่างสวนสาธารณะกับถนนด้านนอก โดยที่ปลายอุโมงค์ฝั่งสวนสาธารณะจะมีบันไดหินวนเป็นครึ่งวงกลมขึ้นไปด้านบน ปากปล่องของอุโมงค์ถูกปกคลุมด้วยไม้เลื้อยและต้นไม้ขนาดใหญ่ เมื่อถ่ายจากมุมด้านล่างย้อนขึ้นไปก็จะได้มุมภาพเท่ๆไปอวดเพื่อนอย่างในรูป
เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงมีนักท่องเที่ยวมาต่อแถวรอคิวเพื่อถ่ายรูปมุมฮิตกันอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งคิวใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
พวกเราจึงไม่รอจ้า หลบออกมาถ่ายมุมอื่นแทนก็ได้ มุมนี้อยู่ด้านข้างของอุโมงค์
การเดินทาง : นั่ง MRT มาลงที่สถานี Dhoby Ghaut ออกทางออก B แล้วเลี้ยวซ้ายมาทางวงเวียน เดินตรงผ่านวงเวียนไปยังป้ายรถเมล์ จากนั้นข้ามถนนมาอีกฝั่งแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอกันปากทางเข้าอุโมงค์ ถ้าอ่านแล้วงงคลิก https://bit.ly/2X31BXv
Chinatown
ใครอยากซื้อของฝากหรือของที่ระลึกมาหาได้จากที่นี่เลย มีของให้เลือกเยอะมาก หรือใครอยากลองอาหารจีนก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะมากเช่นกัน
แลนมาร์คสำคัญของย่านไชน่าทาวน์ก็คือ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) บริเวณชั้นบนสุดของวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว (พระทนต์) ของพระพุทธเจ้า โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคลต่อชีวิตได้อย่างใกล้ชิด
Jewel Changi Airport
ปิดท้ายด้วย Jewel Changi Airport แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสนามบินสิงคโปร์ ตัวอาคารด้านนอกมีการดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นทรงกลมรูปโดมกระจกใสเสมือนเม็ดอัญมณี ตรงกลางของโดมเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลมารวมกันกลายเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่อลังการ
ภายในออกแบบเป็นสวนสาธารณะที่หนาแน่นไปด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่นานาชนิด ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าในธรรมชาติจริงๆ มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกชอปเลือกทานกว่า 280 ร้าน
มีพื้นที่ให้นั่งเล่นพักผ่อน และมีกิจกรรมต่างๆให้ทำอีกมากมายระหว่างรอขึ้นเครื่องหรือต่อเครื่อง สามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่กันได้ทั้งวันเลยทีเดียว
Kopitiam
ศูนย์อาหารที่มีอาหารให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ราคาไม่แพง เหมาะกับการมาทานอาหารเช้าก่อนออกไปเที่ยว ถ้าไม่ได้ซื้อห้องพักแบบรวมอาหารเช้า อยู่บริเวณด้านบนของรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Lavender ทางออก B ใกล้กับโรงแรม Hotel Boss ที่พวกเราพักกันในทริปนี้
Universal Studio
ก่อนเข้ามาเที่ยวยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แนะนำให้ทานอาหารเช้าจากโรงแรมหรือร้านข้างนอกมาก่อน และพกน้ำดื่มมาเอง เพราะอาหารข้างในราคาค่อนข้างแพง โดยในแต่ละโซนจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ตกแต่งเข้าธีมกับโซนนั้นๆ แต่เมนูอาหารจะคล้ายๆกัน
มื้อกลางวันพวกเราเลือกมาทานที่ศูนย์อาหารของโซน The Lost World มีโครงกระดูก T-Rex ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เมนูที่พวกเราเลือกทานคือ นักเก็ตไก่รูปไดโนเสาร์ทานคู่กับมันฝรั่งทอด และน้ำอัดลม 1 แก้ว ราคา S$ 14 (ประมาณ 320 บาท)
และก๋วยเตี๋ยวซุปปลา ราคา S$ 13 (ประมาณ 295 บาท)
Al Tasneem
Al Tasneem ร้านอาหารมุสลิม ตั้งอยู่ด้านหน้าของมัสยิด Sultan Mosque ใกล้กับถนนฮาจิเลน เลือกร้านนี้เพราะเห็นอาหารที่โชว์อยู่ในตู้กระจกน่ากินดีและราคาไม่แพง เลยลองดูสักหน่อยก่อนไปเดินเล่นที่ฮาจิเลน
เมนูอาหารมีให้เลือกหลายอย่าง อยากลองอันไหนก็ชี้บอกพ่อค้าได้เลย
พวกเราสั่งมา 4 อย่าง แป้งแผ่นใหญ่ๆอันนั้นเรียกว่า Cheese Prata ลักษณะคล้ายๆแป้งนานของอินเดียแต่รสชาติต่างกัน แกงถ้วยบนคือ Mutton รสชาติเหมือนแกงมัสมั่นบ้านเรา แกงถ้วยด้านซ้าย Curry Chicken และผัดหมี่ กินได้หมดทุกอย่าง รสชาติโอเคเลย
Satay by the Bay
ศูนย์อาหาร Satay by the Bay ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเดินจาก Garden By The Bay ไป Marina Barrage สามารถแวะกินหลังจากไปเที่ยว Marina Barrage ทานเสร็จก็เดินไปดูการแสดงแสงสีเสียงที่ Supertree Grove ต่อได้เลย
มีเมนูอาหารให้เลือกหลายรูปแบบ รวมทั้งอาหารไทย เครื่องดื่มที่อยากแนะนำให้ลองคือ น้ำอ้อยคั้นสดผสมน้ำมะนาว เดินมาเหนื่อยๆช่วยคืนความสดชื่นได้
Oriental Chinese Restaurant
หากอยากลองอาหารจีนต้องมาย่านไชน่าทาวน์ มีร้านให้เลือกเยอะมาก เมนูแทบจะเหมือนกันทุกร้าน แต่รสชาติเป็นยังไงต้องลอง พวกเราเลือกลองที่ Oriental Chinese Restaurant ร้านอาหารจีนสไตล์ตงเป่ยและเสฉวน
เมนูที่พวกเราสั่งคือ ตีนไก่พริกดอง มะเขือเทศผัดไข่ เห็ดหูหนูลวกจิ้มซีอิ๊ว และหมูเส้นผัดซอสสามรส สั่งตามได้เลยอร่อยทุกอย่าง ราคาอาหารเฉลี่ยอยู่ที่เมนูละประมาณ S$ 8-12 (ประมาณ 180 – 270 บาท)
และขาดไม่ได้เมื่อทานอาหารจีนก็คือ หวางเหล่าจี๋ น้ำสมุนไพรจีนที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาก
Fika Swedish Cafe and Bistro
คาเฟ่และร้านอาหารสไลต์สวีดิช ตั้งอยู่หัวมุมถนนอาหรับ (Arub St) ด้านทิศตะวันออก เป็นถนนที่อยู่ติดกับถนนฮาจิเลน (Haji Lane) เดินเล่นถ่ายรูปและชอปปิ้งจากฮาจิเลนเสร็จแล้ว แนะนำให้มานั่งพักตากแอร์เย็นๆ ทานขนมหวาน และจิบเครื่องดื่มเย็นๆที่นี่เลย
เมนูที่พวกเราสั่งคือ Basilika Breeze น้ำใบโหระพาปั่น เป็นเมนูแนะนำของร้าน เห็นแปลกดีเลยลองสั่งมาดู เฮ้ยมันดีมากอ่ะ ต้องลองๆ อีกแก้วนึงคือ Summer Lemon Tea ชามะนาวเพิ่มความสดชื่น และของหวานคือ Swedish Pancake แป้งนุ่มๆ
PS.Cafe at Harding
PS.Cafe สาขา Harding ในย่าน Tanglin เป็นคาเฟ่ในสวนที่เงียบสงบและร่มรื่น ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่หนาแน่น บรรยากาศดีมากๆ เป็นร้านที่เพื่อนของพวกเราซึ่งเป็นคนสิงคโปร์ขับรถพาไป ถ้าใครสนใจอยากมาแนะนำให้ใช้บริการ Grab เพราะที่นี่ไม่มีรถสาธารณะผ่าน
มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ Indoor และ Outdoor
มีอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มให้เลือกหลายเมนู เมนูที่แนะนำให้ลองคือ Stick Date Pudding แป้งนุ่มๆทานคู่กับไอศกรีมวานิลาเข้ากันมากๆ
ใกล้ๆกันมีร้านอาหารชื่อว่า Jones the grocer เป็นร้านอาหารฝรั่ง ด้านในมีห้องเก็บชีสหลากหลายรูปแบบคล้ายกับเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมชีสขนาดย่อมๆ เปิดให้เข้าชมได้ฟรี
Alexandra Village Food Centre
มื้อนี้พามากินอาหารแบบคนท้องถิ่น แนะนำโดยเพื่อนคนสิงคโปร์ เป็นศูนย์อาหารที่รวบรวมอาหารอร่อยๆไว้หลายร้าน พวกเราขอแนะนำสองร้านนี้เลย
ร้านแรกคือ Xiang Jiang Soya Sauce Chicken เมนูแนะนำคือไก่อบถั่วเหลืองสูตรพิเศษ ไก่อบหอมและเนื้อนุ่มมาก จะกินไก่เปล่าๆ หรือกินคู่กับข้าว หรือบะหมี่ก็ได้ มีให้เลือกทั้งแบบแห้งและน้ำ ราคาไม่แพง
อีกหนึ่งร้านคือ The Old Stall Hokkien Street Famous Prawn Mee ขึ้นชื่อเรื่องบะหมี่ฮกเกี้ยน ลักษณะเป็นหมี่ไข่ในน้ำซุปเข้มข้น ใส่กุ้ง หมูชิ้น ซี่โครงหมู หรือลูกชิ้นปลา แล้วแต่เมนูที่เลือก
การเดินทางมาที่นี่ไม่มีรถสาธารณะ หากสนใจอยากมาลองชิมให้เรียกใช้บริการ Grab จะสะดวกที่สุด
Udders Ice Cream
Udders Ice Cream ตู้ขายไอศกรีมที่มักจะเห็นตั้งอยู่ภายในร้านสะดวกซื้อของสิงคโปร์ หรือแม้แต่บนเครื่องบิน เห็นบ่อยจนพวกเราต้องซื้อมาชิม ไอศกรีมหลากหลายรสชาติบรรจุอยู่ในกระปุกสีส้มดูน่ากิน และก็ไม่ผิดหวังที่ลองชิม เพราะรสชาติดีมากๆ โดยเฉพาะรส Dark Chocolate และรสทุเรียนมาเล สายพันธุ์เมาซานหวาง
Subway
อันนี้แถมให้ เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเคดิตซิตี้แบงค์ รีวอร์ด สามารถแสดงบัตรเพื่อรับแซนด์วิช Classic ขนาด 6 นิ้ว และน้ำเปล่า 1 ขวดฟรี (ปกติ 174 บาท) หรือเลือกรับโดนัทที่ร้าน Krispy Kreme และน้ำแร่ 1 ขวดฟรี (ปกติ 75 บาท) 1 สิทธิ์/คน/เดือน รับได้ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง อาคาร 1 ขาออกระหว่างประเทศ
Airport Transfer
การเดินทางมายังสนามบินนานาชาติดอนเมืองในครั้งนี้เราใช้บริการ Airport Transfer โดยจองผ่านเว็บไซด์ Traveloka ซึ่งร่วมมือกับบริษัท Conxxe ผู้ให้บริการรถรับส่งสนามบินชั้นนำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของ Traveloka ที่จองตั๋วเครื่องบินแล้วต้องการรถรับส่งสนามบินด้วย จองตั๋วเครื่องบินเสร็จจองรถต่อได้เลย ง่ายครบจบในแอพเดียว สะดวกมากๆ ทางไปจองรถรับ-ส่งสนามบิน กับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer
มีรถให้เลือกหลายรุ่น ตามจำนวนคนและสัมภาระที่เรามี เลือกวันเวลาและสถานที่รับส่ง ใส่โค๊ดส่วนลดเพิ่ม (ถ้ามี) เลือกวิธีการชำระเงิน จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาคอนเฟริมวันเวลาและสถานที่รับส่ง ง่ายมากๆ
Fly Scoot
การเดินทางไปสิงคโปร์รอบนี้พวกเราใช้บริการของสายการบิน Scoot เนื่องจากมีโปรโมชั่นราคาพิเศษพร้อมส่วนลดเพิ่มเติมอีก 15% ลดสูงสุดถึง 2,000 บาท เมื่อจองผ่าน Traveloka
เครื่องบินของ Scoot ที่ใช้ในเส้นทาง ดอนเมือง – สิงคโปร์ เป็นรุ่น Boeing 787 ลำใหญ่ ภายในกว้าง นั่งสบาย ไม่ปวดหู แต่ถ้าใครจองขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นรุ่น Airbus A319 หรือ A320 ซึ่งลำเล็กกว่า
Singapore EZ-Link Card
การเดินทางภายในสิงคโปร์วิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ราคาประมาณ S$ 1-2 (ประมาณ 22 – 45 บาท) ต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทาง สามารถซื้อเป็นรายเที่ยว ถ้าใช้ไม่บ่อย แต่ถ้าจะใช้บ่อยแนะนำให้ซื้อบัตรเติมเงิน EZ-Link Card สำหรับนักท่องเที่ยว สะดวกและรวดเร็ว เพราะไม่ต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วบ่อยๆ ใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์สาธารณะ
สามารถจองล่วงหน้าในราคาประหยัดได้ที่เว็บไซด์ Traveloka อีกเช่นกัน คลิกที่นี่เลย Singapore EZ-Link Card จากนั้นนำ Voucher ไปรับบัตรได้ที่เคาร์เตอร์ Changi Recommends ภายในสนามบินได้เลย
Singapore 4G SIM Card
4G SIM Card สำหรับนักท่องเที่ยว อายุการใช้งาน 7 วัน ใช้อินเตอร์เน็ตได้ 100GB โทรได้ 500 นาที โทรไปต่างประเทศได้ 20 นาที
สามารถจองล่วงหน้าได้ที่ Traveloka ราคาประมาณ 243 บาท จากนั้นนำ Voucher ไปรับซิมและเปิดใช้งานได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Cheers ที่อยู่ภายในสนามบิน
Scooter
รอบอ่าวมารีนา มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและแลนด์มาร์คสำคัญที่ห้ามพลาดหลายแห่ง แต่อ่าวมีพื้นที่ขนาดใหญ่และไม่มีรถสาธารณะส่งทั่วถึง ต้องใช้การเดินเป็นหลัก ซึ่งต้องใช้เวลาและกำลังอย่างมากถ้าจะเที่ยวให้รอบ จึงมีทางเลือกในการประหยัดแรงและเวลาก็คือ การเช่าจักรยานหรือสกู๊ตเตอร์ขับเที่ยวรอบอ่าว
พวกเราเลือกสกู๊ตเตอร์ โดยสามารถหาเช่าได้จากบริเวณหน้าห้าง Marina Bay Sands (ตึกรูปเรือ) มีให้เลือกหลายยี่ห้อ พวกเราใช้บริการของ Neuron โดยโหลดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ลงทะเบียนชำระด้วยบัตรเครดิต จากนั้นแอพจะแสดงตำแหน่งของสกู๊ตเตอร์ที่ว่างอยู่และพร้อมใช้งาน เลือกคันที่ต้องการแล้วสแกนคิวอาร์โค๊ดที่อยู่บนสกู๊ตเตอร์เพื่อเริ่มใช้งาน ค่าบริการเริ่มต้น S$ 1 และ S$ 0.12/นาที ระหว่างทางสามารถจอดแล้วล๊อคไว้ชั่วคราวได้ คนอื่นจะไม่สามารถใช้ต่อได้จนกว่าเราจะคืน โดยจะต้องนำมาคืนบริเวณเขตที่กำหนดซึ่งสามารถดูได้จากแอพพลิเคชั่น และที่สำคัญหนึ่งคันสามารถขี่ได้สองคน สะดวกและสนุกมากๆ
ที่พักสำหรับทริปนี้พวกเราเลือกพักที่โรงแรม Hotel Boss ซึ่งเป็นโรงแรมเดิมที่พวกเราเคยมาพักครั้งที่แล้ว ตั้งอยู่บนถนน Victoria ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Lavender เพียงแค่ 350 เมตรเท่านั้น ห้องพักดีและเดินทางสะดวกมากๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องประกอบด้วย Free Wifi, ทีวี, ตู้เย็น, กาต้มน้ำร้อน, แก้วน้ำ 2 ใบ, น้ำดื่มฟรี 2 ขวด, ชาและกาแฟฟรีอย่างละประมาณ 2 ซอง
สำหรับเตาเสียบไฟรองรับหัวปลั๊กทุกรูปแบบ
ห้องน้ำแบ่งโซนแห้งและเปียกออกจากกันได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจก ห้องอาบน้ำเป็นแบบฝักบัวพร้อมน้ำอุ่นและผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ส่วนโถส้วมจะอยู่ด้านข้างของอ่างล้างหน้า และไม่มีสายฉีดชำระแต่มีทิชชู่ให้
วิวจากหน้าต่างภายในห้องพัก
และทั้งหมดนี้ก็คือความโก้ของประเทศสิงคโปร์ที่พวกเราเอามาฝาก และอยากให้เพื่อนๆได้ลองออกไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ด้วยตัวเอง แล้วจะอุทานว่า โอ้โห สิงคโปร์ นั้นโก้จริงๆ
สรุปรายละเอียดการเดินทาง ดังนี้
DAY 1
1. ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน Scoot เที่ยวบินที่ TR-869 ออกเวลา 17.00 น. ถึงสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ เวลา 20.25 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที
2. เช็คอินเข้าที่พักโรงแรม Hotel Boss (ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Lavender)
DAY 2
1. มื้อเช้าที่ Kopitiam ใกล้กับที่พัก
2. ตะลุย ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ทั้งวัน
DAY 3
1. มื้อกลางวันที่ร้าน Al Tasneem
2. เดินเล่น ชอปปิ้ง และถ่ายรูปที่ Haji Lane
3. นั่งชิลที่ Fika Swedish Cafe and Bistro
4. เที่ยวชม ArtScience Museum
5. วิ่งเล่นที่ Digital Light Canvas
6. ขี่สกู๊ตเตอร์เที่ยว Gardens by The Bay East
7. นั่งชมวิวที่ Marina Barrage
8. มื้อเย็นที่ Satay by the Bay
9. ชมแสงสีที่ Garden by The Bay
10. ชมแสงสีที่ Marina Bay
*สถานที่ในหมายเลข 4 – 10 ตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน
DAY 4
1. มื้อเช้าที่ Alexandra Village Food Centre
2. นั่งชิลที่ PS.Cafe at Harding
3. เที่ยวชมอุโมงค์ต้นไม้ที่ Fort Canning Park
4. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple)
5. มื้อกลางวันที่ร้าน Oriental Chinese Restaurant
6. เที่ยวชม Jewel Changi Airport
7. เดินทางกลับด้วยสายการบิน Scoot เที่ยวบินที่ TR-868 ออกเวลา 22.20 น. ถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 23.45 น.
ช่วงเวลาเดินทาง 17-20 พฤษภาคม 2562 (ช่วงวันวิสาขบูชา)
รายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบิน Scoot ไป-กลับ 2 คน ราคา 9,312 บาท ใช้โค๊ดส่วนลดของ Traveloka ลดเพิ่มอีก 15% สูงสุด 2,000 บาท จึงได้ลดเพิ่มอีก 1,396 บาท เหลือ 7,915 บาท ตกคนละ 3,957 บาท (ถือว่าถูกมากสำหรับตั๋วช่วงวันหยุดยาว)
2. ค่ารถรับส่งสนามบิน 700 บาท/เที่ยว (รวมค่าทางด่วน) ใช้โค๊ดส่วนลด Airport Transfer ลดเพิ่มอีก 120 บาท เหลือ 580 บาท/เที่ยว
3. ค่าที่พัก Hotel Boss จำนวน 3 คืน 6,505 บาท เฉลี่ยคืนละ 2,168 บาท หากสนใจสามารถเข้าไปตรวจสอบราคาล่าสุดและจองห้องพักได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/hotel-boss-3000010007851
4. ค่าตั๋วเข้าชมและกิจกรรมต่างๆ (ทุกรายการซื้อผ่าน Traveloka)
- Universal Studio 1,650 บาท/คน ใช้โค๊ดส่วนลด Xperience ลดเพิ่มอีก 250 บาท เหลือ 1,400 บาท/คน
- Sentosa Monorail Express 185 บาท/คน
- ArtScience Museum (Future World + Digital Light Canvas) 317 บาท/คน
5. ค่าบัตรรถไฟฟ้าและซิมการ์ด
- Singapore EZ-Link Card 225 บาท/ใบ
- Singapore 4G SIM Card 243 บาท/ใบ
*ราคาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ตั๋วเข้าชม และบัตรต่างๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทางและโปรโมชั่น ณ ปัจจุบัน
6. ค่าอาหารและอื่นๆ : ตามอัธยาศัย
รวมค่าใช้จ่ายหลักสำหรับ 4 วัน 3 คืน ทั้งหมด 20,462 บาท ตกคนละประมาณ 10,231 บาท
คิ้วหนา & ตากลม
LOVE IS A JOURNEY | เพราะความรัก คือ การเดินทาง…
ติดตามการเดินทางของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/LoveIsAJourneyThailand