7 เทคนิค การโบกรถเที่ยว สำหรับ Backpacker มือใหม่ สายประหยัด

7 เทคนิค การโบกรถเที่ยว สำหรับ Backpacker มือใหม่ สายประหยัด

การโบกรถเที่ยว หมายความว่าอย่างไร?

“การโบกรถเที่ยว” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Hitchhiking” เป็นวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดหมายที่ต้องการด้วยการขออาศัยผู้ที่ขับรถผ่านไปในเส้นทางเดียวกันกับเรา หรือเรียกง่ายๆ ก็คือขอติดรถไปด้วย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับ Backpacker มือใหม่สายประหยัดที่ต้องการความท้าทายและประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต เหมือนอย่างในภาพยนต์เรื่อง Into the Wild

เคยโบกรถเที่ยวกันไหม?

สำหรับเราเวลาไปเที่ยวไหนก็มักจะลองโบกรถเที่ยวอยู่บ่อยๆ ทั้งแบบคนเดียวและกับกลุ่มเพื่อน โบกไปใกล้บ้างไกลบ้างแล้วแต่สถานที่ เคยโบกไกลสุดด้วยรถคันเดียวก็จากวังน้ำเขียวมารังสิต ส่วนยานพาหนะที่เคยโบกก็มีตั้งแต่รถมอเตอร์ไซด์ รถเก๋ง รถปิกอัพ รถของการไฟฟ้า หรือแม้กระทั้งรถสิบล้อที่ได้นั่งกระบะท้ายกว้างๆ สบายมาก

การโบกรถเที่ยว

ตัวอย่างบันทึกการเดินทางที่เราเคยไปโบกรถเที่ยว

ออกเดินทางไปตามหาคำตอบที่ใช่จาก “ปากเซ” สปป.ลาว

BACKPACK ฉายเดี่ยวตะลุยเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด

การโบกรถเที่ยว อันตรายไหม?

เราว่าก็ 50/50 นะ เพราะมันก็เหมือนเป็นการวัดความเชื่อใจอย่างหนึ่ง คนขับเองก็อาจจะกลัวเรา ส่วนเราก็กลัวคนขับเหมือนกัน ถ้ามีเพื่อนร่วมโบกหลายๆ คน ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจเพิ่มมากขึ้น ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงควรจะมีเพื่อนผู้ชายไปด้วยจะดีที่สุด ไม่แนะนำให้โบกคนเดียว ถ้าเป็นการนั่งซ้อนท้ายหรือกระบะหลังก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะอาจจะตกหรือร่วงหล่นได้ ตั้งแต่เราเคยโบกรถมาก็ยังไม่เคยเจออะไรที่อันตรายนะ เจอแต่วิวสวยๆ และมิตรภาพดีดี เลยอยากให้ทุกคนได้ลองดูบ้าง ลองแล้วอาจจะติดใจก็ได้นะ

ถ้าอยากลองโบกรถเที่ยวบ้างต้องทำยังไงดี? 

เราเลยมีเทคนิคง่ายๆ ที่เคยทำและพอนึกออกมาแนะนำประมาณ 7 ข้อ ดังนี้

1. โบกตอนกลางวันเท่านั้น!!!

เพราะถ้าไปโบกตอนกลางคืนรถที่วิ่งมาอาจจะมองไม่เห็นเรา แล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าเราเป็นโจรเลยไม่มีใครกล้ารับ หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าเราคือพลังงานบางอย่างก็เป็นไปได้

2. โบกในเส้นทางที่รถวิ่งไม่เร็วมากนัก

เพราะคนขับจะได้มีเวลาคิดว่าจะรับเราดีไหมและสามารถที่จะชะลอรถเพื่อจอดรับเราได้ทัน ห้ามโบกบนทางหลวงหรือถนนที่รถวิ่งเร็วเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนหรือชนท้ายกันได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องโบกจริงๆ แนะนำให้เข้าไปดักโบกในปั้มน้ำมันจะดีที่สุด

3. เขียนป้ายบอกจุดหมายที่ต้องการไปให้ชัดเจน

โดยการเตรียมกระดาษและปากกาติดไปด้วย อยากไปไหนก็เขียนชื่อสถานที่ลงไปตัวใหญ่ๆ แล้วชูขึ้นสูงๆ ให้สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เมื่อมีรถจอดรับให้วิ่งเข้าไปหาพร้อมยกมือไหว้ และบอกถึงความต้องการของเรา ตัวอย่างประโยค เช่น “สวัสดีครับ พอดีพวกเรากำลังจะไปที่ทำการอุทยานฯ ไม่ทราบว่าพี่จะผ่านไปทางนั้นไหมครับ พวกเราอยากจะขออาศัยติดรถไปด้วยจะได้ไหมครับ?” หากโชคดีก็อาจจะโบกแค่ต่อเดียว แต่ส่วนใหญ่เค้าอาจจะถึงจุดหมายก่อนหรือแยกไปคนละทางก็สามารถขอลงกลางทางแล้วโบกต่อไปเรื่อยๆ ได้เช่นกัน

การโบกรถเที่ยว

4. แต่งตัวให้ดูเหมือนนักท่องเที่ยว

อย่างเช่นการสะพายกระเป๋าเป้ เพราะจะสามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ ไม่ควรใส่หมวก โพกผ้าบังหน้า หรือใส่แว่นตาดำเวลาโบก แต่ถ้าโบกได้แล้วจะเอามาใส่บังแดดบังลมก็ได้ ทาครีมกันแดดด้วยก็ดีนะ ส่วนถ้ามีเพื่อนผู้หญิงไปด้วยก็ควรแต่งตัวให้มิดชิดที่สุด

5. เก็บของมีค่าให้เรียบร้อย

ไม่ควรถือออกมาโชว์หรือให้เห็นง่ายๆ อย่างเช่น กล้อง โทรศัพท์มือถือ หรือสร้อยทอง ฯลฯ

6. ตรวจสอบเส้นทางก่อนทุกครั้ง

เราควรตรวจสอบเส้นทางจากจุดที่เราอยู่ไปยังจุดหมายที่เราจะไปก่อนที่จะโบกรถทุกครั้ง เพราะหากเมื่อใดที่รถขับออกนอกเส้นทางที่วางไว้ หรือตกลงกันเอาไว้จะช่วยให้เราสามารถไหวตัวได้ทันด้วยการขอลง แล้วจึงค่อยโบกไปต่อเพื่อความปลอดภัย ไม่ควรไปเส้นทางลัดที่เราไม่รู้จัก ซึ่งการตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้าสามารถใช้ Google Map ในการช่วยค้นหาเส้นทาง หรือหากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแนะนำให้พกแผนที่แบบพับได้ติดกระเป๋าเอาไว้เสมอ

การโบกรถเที่ยว

7. สัมผัสด้วยตา ตัดสินด้วยใจ

ข้อนี้อาจจะยากสักหน่อย เพราะต้องใช้สายตาในการสบตาผู้ที่เราจะขออาศัยไปด้วยว่ามีความจริงใจแค่ไหน เพราะสายตาสามารถบ่งบอกความคิดและความรู้สึกได้ดีที่สุด ว่าใครหวังดีหรือไม่หวังดีกับเรา แต่ก็อาจจะไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คำพูดฟังดูเป็นมิตรไหม ลักษณะท่าทางดูน่าไว้ใจได้ไหม และคนที่นั่งมาด้วยโอเครึเปล่า ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงหรือเด็กก็จะยิ่งดี แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงวิธีสำรวจด้วยสายตาเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจเท่านั้น เพราะความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถตัดสินใครได้ว่าดีหรือไม่ดี จากที่เห็นเพียงภายนอกในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ได้เสมอไป และเมื่อเค้ายินดีที่จะรับเราแล้วก็เหลือแต่เราที่ต้องใช้ใจในการตัดสินว่าจะไปหรือไม่ไป

การโบกรถเที่ยว

ของแบบนี้มันต้องลองดูสักครั้ง

ลองเอา 7 ข้อนี้ไปใช้กันดูนะ แรกๆ อาจจะมีผิดหวังบ้างที่ไม่มีใครแวะรับ ต้องใช้ความพยามยามและอดทนโบกไปเรื่อยๆอย่างน้อย 5 คันที่โบกต้องมี 1 คันที่แวะรับเราแน่นอน และเมื่อโบกได้แล้วอย่างลืมปฏิบัติตัวเป็นผู้ร่วมทางที่ดีด้วยนะ อย่างเช่น ไม่ทานอาหารหกเลอะเทอะ ไม่ส่งเสียงดังจนเกินไป พยายามหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องที่ sensitive เช่น การเมือง ศาสนา หรือความเชื่อ แต่ถ้าคนขับชวนคุยก็ให้คล้อยตามไปก่อนจะดีที่สุด ถ้าใครมีเทคนิคอื่นเจ๋งๆ แนะนำเพิ่มเติมได้นะ

เมื่อเราได้ลองแล้วจะรู้ว่า การโบกรถเที่ยว มันสนุกมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องตากแดดจนดำหรือเสี่ยงไปบ้าง แต่ประสบการณ์ที่ได้ก็ถือว่าคุ้มมาก ได้เห็นวิวสองข้างทางในมุมที่แตกต่าง ได้เห็นความมีน้ำใจของคนไทยด้วยกันและยังช่วยประหยัดค่าเดินทางได้อีกด้วย

LIFE IS A JOURNEY | เพราะชีวิต คือ การเดินทาง…

x Close

LIFE IS A JOURNEY